ดู อุณหภูมิ ห้องเย็น ผ่านโทรศัพท์

       Internet of Things (IoT) หมายถึง “สิ่ง” จำนวนมากมายที่เชื่อมต่อกับ อินเทอร์เน็ต หรือหมายถึงการเชื่อมโยงของอุปกรณ์อัจฉริยะทั้งหลายผ่านอินเทอร์เน็ตเพื่อให้สามารถแบ่งปันข้อมูลกับสิ่งต่าง ๆ และนำเทคโนโลยีนี้เข้ามาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกมากยิ่งขึ้น เราจะพาไปทำความรู้จักกับอุปกรณ์ IoT ที่สามารถนำไปใช้ใน ระบบตู้แช่และห้องเย็น ซึ่งก่อนหน้านี้ เราจะใฃ้ตู้แช่ หรือห้องเย็น โดยจะมีการควบคุมจาก อุปกรณ์ควบคุมความเย็น ซึ่งเรียกว่า ดิจิคอลคอนโทรล digital control ซึ่งจะติดไว้หน้าตู้ หรือที่ห้นาห้องเย็น ซึ่งจะต้องไปดูหรือปรับค่าต่างๆได้ที่หน้าห้องเย็นเท่านั้น แต่ในสมัยปัจจุปันนี้ เราได้พัฒนา ระบบการควบคุม อุณหภูมิ ห้องเย็น โดยจะควบคุมผ่าน ระบบ (IoT) Internet of Things ซึ่งจะควบคุมผ่านสัญญาณไวไฟ อินเตอร์เน็ต เก็บข้อมูลไว้ที่ Cloud ความสามารถของระบบ มีดังนี้

- ส่งสัญญานแจ้งเตือนอุณหภูมิ อุณหภูมิ สูง ต่ำ ผ่าน แอปพิเคชั่น ไลน์ Line 

- ดูอุณหภูมิ ปัจจุบัน ผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือ คอมพิวเตอร์ โน็ตบุ๊ค หรือพีซี ได้ตลอดเวลา

- บึนทึกข้อมูลอุณหภูมิ ย้อนหลังได้เป็นปี ขึ้นอยู่กับพื้นที่คลาวที่เราเฃ่า และเรียบเก็บข้อมูลลงคอมพิวเตอร์ ผ่านเอ็กซเซล 

- สามารถตั้งอุณหภูมิ ตั้งระยะเวลาดีฟรอส ตั้งค่าต่างๆของดิจิตอลคอนโทรล ผ่านโทรศัพท์มือถือ 

- ปิดเปิด เครื่องผ่านโทรศพท์ มือถือ หรือ คอมพิวเตอร์

- ระบบ (IoT) สามารถค่าวัดค่าและบึนทึก การใฃ้พลังงานหรืออัตราการกินกระแสไฟฟ้าได้อีกด้วย

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  TEL 095-954-9801 TEL 063-248-2963 

บทความ เกียวกับระบบ iot

ตัวควบคุม IoT ซึ่งย่อมาจาก Internet of Things controller ทำหน้าที่เป็นสมองของระบบ IoT เป็นศูนย์กลางที่จัดการการสื่อสารและการประสานงานระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ในเครือข่าย ตั้งแต่เซ็นเซอร์ธรรมดาไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะและเครื่องจักรอุตสาหกรรม ต่อไปนี้คือรายละเอียดการทำงานของตัวควบคุม IoT และความสำคัญ:

ตัวควบคุม IoT ทำงานอย่างไร:

1. การรวบรวมข้อมูล:

• บทบาท: ตัวควบคุมรวบรวมข้อมูลจากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อต่างๆ ผ่านเซ็นเซอร์หรือกลไกอินพุตอื่น
• ตัวอย่าง: ข้อมูลนี้อาจรวมถึงการอ่านอุณหภูมิ ระดับการทำงาน การใช้พลังงาน บันทึกข้อมูล 

1. การประมวลผลข้อมูล:

• บทบาท: ผู้ควบคุมจะวิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมมา โดยมักจะเป็นแบบเรียลไทม์
• วิธีการ: อาจปฏิบัติตามกฎที่ตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้าหรือใช้ปัญญาประดิษฐ์และอัลกอริทึมการเรียนรู้ของเครื่องจักรเพื่อตีความข้อมูล

1. การตัดสินใจ:

• บทบาท: ผู้ควบคุมจะตัดสินใจตามข้อมูลที่ประมวลผล
• การดำเนินการ: อาจรวมถึงการส่งคำสั่งไปยังอุปกรณ์อื่น การกระตุ้นการดำเนินการอัตโนมัติ หรือการสร้างการแจ้งเตือนเมื่อมีการแทรกแซงของมนุษย์

1. การสื่อสาร:

• บทบาท: ตัวควบคุมส่งคำสั่งและคำแนะนำไปยังอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ
• การจัดการโปรโตคอล: ทำหน้าที่เป็นตัวแปลเพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีโปรโตคอลการสื่อสารที่แตกต่างกัน (เช่น Wi-Fi, Bluetooth, Zigbee) สามารถเข้าใจกัน

1. ความปลอดภัย:

• บทบาท: ผู้ควบคุมจำนวนมากจัดการการเข้าถึงของผู้ใช้และเข้ารหัสข้อมูลเพื่อป้องกันระบบจากการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือการละเมิด
• ความสำคัญ: การรับรองความสมบูรณ์และความลับของข้อมูลถือเป็นสิ่งสำคัญต่อความปลอดภัยโดยรวมของเครือข่าย IoT

ประเภทของตัวควบคุม IoT:

1. ตัวควบคุมที่ใช้ฮาร์ดแวร์:

• คำอธิบาย: อุปกรณ์ทางกายภาพ มักจะมีขนาดเล็กและพลังงานต่ำ ซึ่งเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตหรือเครือข่ายท้องถิ่นโดยตรง
• การสื่อสาร: โดยทั่วไปจะใช้โปรโตคอลไร้สาย เช่น Wi-Fi, Bluetooth หรือ Zigbee เพื่อสื่อสารกับอุปกรณ์อื่นๆ
• กรณีการใช้งาน: เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเครือข่ายท้องถิ่นที่จำเป็นต้องมีการควบคุมฮาร์ดแวร์โดยตรง

1. ตัวควบคุมที่ใช้ซอฟต์แวร์:

• คำอธิบาย: อยู่ในระบบคลาวด์และพึ่งพาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและบริการเว็บเพื่อโต้ตอบกับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ
• ข้อดี: มีความสามารถในการปรับขนาดที่มากขึ้น การอัปเดตที่ง่ายกว่า และความสามารถในการจัดการจากระยะไกล
• กรณีการใช้งาน: เหมาะสำหรับการปรับใช้ขนาดใหญ่ที่ต้องการการควบคุมและการวิเคราะห์แบบรวมศูนย์

ความสำคัญของตัวควบคุม IoT:

• ระบบอัตโนมัติ: เปิดใช้งานระบบอัตโนมัติของงาน ลดความจำเป็นในการแทรกแซงของมนุษย์
• การเพิ่มประสิทธิภาพ: ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร เช่น พลังงานหรือน้ำ โดยทำการปรับปรุงตามเวลาจริงตามข้อมูล
• ข้อมูลเชิงลึก: ให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าจากข้อมูลที่รวบรวมจากเครือข่าย IoT ช่วยเหลือในการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์และประสิทธิภาพการทำงาน
• ความสามารถในการทำงานร่วมกัน: รับประกันว่าอุปกรณ์จากผู้ผลิตที่แตกต่างกันและมีโปรโตคอลการสื่อสารที่แตกต่างกันสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น
• ความสามารถในการปรับขนาด: อำนวยความสะดวกในการขยายขนาดระบบ IoT ด้วยการจัดการอุปกรณ์จำนวนมากที่เพิ่มขึ้นโดยไม่เพิ่มความซับซ้อนตามมา